วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สนามยามาฮ่าสเเดี้ยม

สโมสรฟุตบอลเมืองทอง ยูไนเต็ด
ใช้สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยมเป็นสนามเหย้า โดยสนามแห่งนี้อยู่หลังอาคารชาเลนเจอร์ เป็นพื้นที่โล่งใกล้กับทางขึ้นลงทางด่วนพิเศษ ไปได้ทุกที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
สำหรับสนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม นั้นปัจจุบันมีความจุโดยประมาณ 15,000 ที่นั่ง ได้มาตรฐานเอเอฟซี ย้อนกลับไปปี พ.ศ 2550 สภาพสนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม ซึ่งยังเรียกว่า ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม โชว์พัฒนาการให้เห็นขึ้นตามลำดับ ไล่มาตั้งแต่ การคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 ในปี 2007 ก่อนจะก้าวไปอีกขั้นกับ แชมปืดิวิชั่น 1 ในปี 2008 ต่อด้วย แชมป์ไทยพีเมียร์ลีค ใน ปี 2009 จนแฟนคลับมีจำนวนเพื่มขึ้นตามลำดับจึงได้มีการเปลี่ยนชื่อสนาม เป็น ยามาฮ่า สเตเดี้ยม พร้อมลงมือก่อสร้างอัฒจรรย์ ทั่ง 3ด้าน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร และในช่วงปี 2010 ได้ทำการปรับปรุง พื้นสนาม ด้วยเทคโนโลยีที่ ทันสมัยที่สุด โดยใช้ หญ้าพันธุ์ดี อย่าง "พาสพาลั่ม" ขณะที่ส่วนอัฒจรรย์ ที่นั่งของสนามยามาฮ่าสเตเดี้ยม ยังติดตั้งเก้าอี้ จำนวน 9000 ที่นั้ง ในอัฒจรรย์ฝั่งทิศ ตะวันออก และตะวันตก
ลักษณะการเชียร์ กองเชียร์เมืองทอง ยูไนเต็ด จะเรียกกันว่า "อุลตร้า เมืองทอง เชียร์ไม่มีหมด 90นาที " โดยมีฝั่งอัฒจรรย์ ทิศเหนือ และ ทิศใต้ เป็นโซนยืนเชียร์ อัฒจรรย์ ทิศตะวันออก และตะวันตก เป็นที่นั่งติดเก้าอี้ทั้งหมด
อัฒจรรย์ ทิศ ตะวันออก (East Stand)และ ตะวันตก (West Stand) ราคาตั๋ว 100 บาท
อัฒจรรย์ ทิศ เหนือ (North Stand) และ ทิศใต้ (South Stand) ราคาตั๋ว 80 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น